- TOKYO
- MIYAZAKI
WATER TAXI CRUISE
หลังจากได้ชมทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ของอ่าวโตเกียว สะพานสายรุ้ง และการขึ้นและลงจอดเครื่องบินเจ็ทที่สนามบินฮาเนดะแล้ว เดินทางไปเที่ยวที่ศาลเจ้าอาโอชิมะอันน่าอัศจรรย์ที่ตั้งอยู่บนเกาะอาโอชิมะซึ่งล้อมรอบไปด้วยทะเล การเดินทางอันยอดเยี่ยมที่ได้เข้าใกล้และสัมผัสกับมหาสมุทรญี่ปุ่น
Official Tokyo Travel Guide
https://www.gotokyo.org/th/
Local government official website
http://www.kanko-miyazaki.jp/foreign.html
นักท่องเที่ยว
- Traveled : December, 2017 Jasmine T. Blossom
- พนักงานส่งเสริมการขายประจำภูมิภาคเอเชีย เจ้าของบล็อก นักแปล
ที่อยู่อาศัย:เยอรมนี
- Traveled : December, 2017 Tessa Karina
- นักข่าวประจำเว็บไซต์ท่องเที่ยว
ที่อยู่อาศัย:โตเกียว
สถานที่เกิด:เยอรมนี
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต
JAL408 ตรวจสอบวิธีการเดินทางจากประเทศของตนเอ
-
- Jasmine T. Blossom
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันบินข้ามประเทศกับสายการบิน JAL อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องอร่อยมากจนเกือบจะเหมือนอาหารที่ภัตตาคารเลย นอกจากจะมีที่นั่งที่สบาย มีพื้นที่ให้เหยียดแข้งเหยียดขามากพอแม้ว่าจะเป็นชั้นประหยัดแล้ว ยังมีระบบความบันเทิงที่ยอดเยี่ยมด้วยหน้าจอที่ใหญ่และภาพยนตร์กับซีรีย์ที่คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยม
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ
นาริตะเอ็กซ์เพรส
ภายในกรุงโตเกียว
วันแรก
TOKYO
ตลาดสึกิจินอกmore

-
- Jasmine T. Blossom
ถึงแม้ว่าจะมาโตเกียวหลายครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เดินชมโซนด้านนอกของตลาดสึคิจิ ฉันไปชมตลาดในญี่ปุ่นมาแล้วหลายแห่ง ดังนั้น จึงสงสัยใคร่รู้ว่าที่สึคิจิมีอะไรขายบ้าง ฉันประหลาดใจที่ได้รู้ว่าตลาดแห่งนี้ใหญ่แค่ไหน และยังมีอาหารทะเลสดๆ ผัก ผลไม้ รวมถึงเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารจำนวนมากขายที่นี่ด้วย ตลาดแห่งนี้คือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการลิ้มลองของขบเคี้ยวต่างๆ มากมาย เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งกลับจนกว่าจะได้ลองชิมอะไรสักอย่างนะ
-
- Tessa Karina
เราขึ้นรถไฟใต้ดินและมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางแห่งแรกของเรา ซึ่งก็คือโซนด้านนอกของตลาดสึคิจิอันโด่งดัง ว่ากันว่าตลาดแห่งนี้เป็นตลาดแห่งใหญ่ที่สุดในโลกที่จำหน่ายทั้งปลา ผลไม้ และผัก ขณะที่เดินไปท่ามกลางฝูงชนที่คราคร่ำวุ่นวาย เราได้ซึมซับกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนที่ไหนของตลาดแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นปลา ผลไม้ และผักนานาชนิดที่เยอะจนชวนงง รวมไปถึงขนมหวานและชาอีกหลากหลายชนิดที่วางขายอยู่ที่นั่นด้วย
ประมาณ15นาที
สวนฮามะ ริคิวmore

-
- Jasmine T. Blossom
ฉันเคยไปที่สวนฮามะริคิวมาก่อน และสิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับสวนนี้ก็คือ คุณจะได้เห็นการผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัย สวนแห่งนี้เป็นสวนแบบญี่ปุ่นที่มีร้านน้ำชาน่ารักๆ ให้คุณได้พักทานขนมหวานแบบญี่ปุ่นและชาเขียวมัทฉะพร้อมๆ กับชมตึกสูงระฟ้าในย่านชิโอโดเมะ
ร้านอาหารฮิบิคิตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของตึกใกล้กับสวนฮามะริคิว จากร้านนี้สามารถมองเห็นตึกระฟ้าที่อยู่ใกล้เคียงและสวนได้ ตัวร้านอาหารสว่างสดใสมากเพราะมีหน้าต่างหลายบานและมีบรรยากาศแบบโมเดิร์น มีอาหารมากมายหลายอย่างให้เลือก แต่ด้วยความที่อยู่ใกล้กับตลาดปลาสึคิจิ คุณจึงควรลองชิมซาชิมิของที่นี่ดู (เหมือนกับฉัน)
-
- Tessa Karina
หลังจากนั้น เราก็เดินไปยังสวนฮามะริคิว บ่อน้ำขนาดใหญ่และร้านน้ำชาโบราณเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ตรงใจกลางสวนให้การต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น ขณะที่ดื่มชา เราก็ได้ชื่นชมทัศนียภาพของสวนจากร้านชาอันสวยงามนี้ไปพร้อมๆ กัน พนักงานของร้านชาเสิร์ฟขนมหวานญี่ปุ่นชิ้นเล็กๆ ให้กับเรา ซึ่งเข้ากันได้ดีกับรสชาติของมัทฉะ (ชาแบบบดเป็นผง) และยังเล่าประวัติของสวนแห่งนี้ให้เราฟังด้วย พวกเรารู้สึกประหลาดใจจริงๆ ที่ได้ค้นพบกับสถานที่อันเงียบสงบแห่งนี้ที่ใจกลางกรุงโตเกียว
เดินจากสวนฮามะริคิวไปไม่ไกลก็ถึงร้านอาหารฮิบิคิ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นที่ 46 ของตึกสูงระฟ้าที่มีชื่อว่า คาเรตต้า ชิโอโดเมะ ซาชิมิ (ปลาดิบ) ที่เราสั่งมาทานสดมาก พวกเรากินกันไปเรื่อยๆ จนหมดเกลี้ยง ทิวทัศน์อันงดงามเมื่อมองลงมาจากร้านอาหารแห่งนี้รวมถึงอาหารคุณภาพเยี่ยมทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการรับประทานอาหารเป็นอย่างยิ่ง และสิ่งที่ทำให้ที่นี่ยอดเยี่ยมมากขึ้นไปอีกก็คือ พนักงานผู้เป็นมิตรซึ่งรักษากิริยาท่าทางอย่างดีเยี่ยมอยู่ตลอดเวลา
สายโทะเอโอเอโดะ→สายโตเกียวเมโทรยูระขุโจ→สายJRเคโย
ชิโอโดะเมะ→สึกิจิมะ→ชินคิบะ→คะไซริงไคโคเอน
ประมาณ40นาที
จากสถานีคะไซริงไคโคเอน เดินประมาณ8นาที
(ถึงท่าเรือเมล์คะไซริงไคโคเอน)
เรือเมล์ (คะไซ~โอไดบะไลน์)more
แหล่งท่องเที่ยวแนะนำ

-
- Jasmine T. Blossom
เรือโดยสารเป็นวิธีการเดินทางที่เยี่ยมมาก คุณจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของขอบฟ้าเมืองโตเกียว และการเดินทางแบบนี้ยังน่าตื่นเต้นกว่าการเดินทางแบบอื่นๆ อย่างเช่น รถไฟ มากด้วย คุณจะเลือกนั่งด้านในหรืออยู่ด้านนอกบนดาดฟ้าเรือซึ่งเป็นจุดที่เหมาะกับการถ่ายภาพก็ได้
ทุกครั้งที่ไปเยือนโอไดบะ ฉันจะรู้สึกได้ถึงความสดชื่นเสมอ ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนว่าคุณอยู่ในประเทศอื่นที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น คุณสามารถชมวิวขอบฟ้าของเมืองโตเกียวและมหาสมุทรได้ แต่จุดเด่นอยู่ที่ทิวทัศน์ยามกลางคืนของสะพานสายรุ้งและโตเกียวทาวเวอร์ ย่านนี้ยังมีศูนย์การค้าหลายแห่งและรูปปั้นกันดั้มขนาดยักษ์อันโด่งดังด้วย
-
- Tessa Karina
เราขึ้นเรือโดยสารและไม่รู้สึกถึงความโคลงเคลงของเรือเลยสักนิด ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าวันนั้นลมพัดไม่แรงเท่าไหร่ เรามองเห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตรงสะพานสายรุ้งได้จากบนเรือ บรรดาตึกระฟ้าที่เคลื่อนผ่านไปบนสองฟากฝั่งริมแม่น้ำเป็นภาพที่สวยงามมาก
เรามาถึงย่านโอไดบะที่มีชีวิตชีวาและคราคร่ำไปด้วยผู้คน เมื่อมองจากบนท่าเรือ เราก็เข้าใจถ่องแท้ว่าที่สะพานแห่งนี้มีชื่อว่า สะพานสายรุ้ง ก็เพราะแสงที่ส่องประกายหลากหลายสีสัน หลังจากเดินเล่นบริเวณย่านโอไดบะอันโด่งดังแล้ว เราก็ได้พบกับหุ่นยนต์ใหญ่ยักษ์ที่มีชื่อว่ากันดั้ม โดยจะมีการเปิดไฟส่องหุ่นจำลองตัวนี้ตามตารางเวลา และเปิดเพลงจากการ์ตูนเรื่องกันดั้มคลอไปพร้อมกับการส่องไฟด้วย
สายริงไค
โตเกียวเทเลพอร์ต → โคะคุไซเทนจิโจ
ประมาณ15นาที
โรงแรมโตเกียวเบย์อะริอาเคะวอชิงตัน
วันที่สอง
KYUSHU(MIYAZAKI)
ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว
JAL (Japan Explorer Pass) ดูรายละเอียด
-
- Jasmine T. Blossom
ในการเดินทางด้วยเที่ยวบินภายในประเทศระหว่างฮาเนดะและเกาะคิวชู สายการบิน JAL มีบริการเครื่องดื่มฟรี ฉันรู้สึกแปลกใจที่กาแฟบนเครื่องอร่อย จึงไม่รอช้าที่จะขอเพิ่มอีกแก้วหนึ่งทันที บนเครื่องยังมีบริการ Wi-Fi ฟรีด้วย ซึ่งสะดวกมากๆ ฉันต้องการจะเปลี่ยนที่นั่ง (เพราะฉันยังอยากจะถ่ายภาพภูเขาฟูจิจากมุมสูงอยู่) พนักงานก็ให้ความช่วยเหลืออย่างดีมากๆ
-
- Tessa Karina
ขั้นตอนการเช็กอินในการขึ้นเครื่องของสายการบิน JAL ของเรานั้นเป็นไปอย่างราบรื่นและพนักงานก็เป็นมิตรมาก ที่สนามบิน ฉันซื้ออาหารกล่องเบนโตะมื้อกลางวันแสนอร่อยและน้ำหนึ่งขวดสำหรับทานเป็นอาหารเช้า เที่ยวบินของ JAL นั้นตรงเวลาและสะดวกสบาย ขณะที่เรากำลังทานอาหารมื้อเช้าที่ฉันซื้อมาจากสนามบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็เอาเครื่องดื่มมาให้มากมายตามที่เราขอ ระหว่างการเดินทาง เราได้เห็นเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นอยู่ทางขวามือและชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นอยู่ทางด้านซ้ายด้วย
สนามบินอะโสะคุมาโมโตะmore

ขึ้นรถบัสด่วนของทาคาชิโฮและลงที่ศูนย์รถบัสทาคาชิโฮ (เที่ยวเดียว:ประมาณ 2 ชม.)
-
- Jasmine T. Blossom
ทาคาจิโฮยะเป็นร้านอาหารแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการในปี 2017 ร้านนี้ตั้งอยู่ระหว่างศูนย์รถบัสทาคาจิโฮและศาลเจ้าทาคาจิโฮ ดังนั้นคุณต้องเดินผ่านร้านนี้แน่ๆ การตกแต่งภายในของร้านมาจากความรักและความทุ่มเท ส่วนอาหารก็ถูกจัดวางมาอย่างน่ารัก คุณสามารถทานชุดอาหารมื้อกลางวันที่ทั้งอร่อยและอิ่มท้องได้ในราคาประมาณ 1,000 เยน
*ราคาสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อใช้ -
- Tessa Karina
ร้านอาหารทาคาจิโฮยะที่เพิ่งเปิดให้บริการในปีนี้มีการตกแต่งภายในแบบร่วมสมัยและให้บริการอาหารญี่ปุ่นคุณภาพเยี่ยมโดยใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น เช่น ผักโขม ผลไม้ และปลา บรรยากาศที่ดีเลิศของร้านช่วยเสริมให้รสชาติของอาหารดียิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังสามารถขอเติมข้าวฟรีได้ด้วย
ช่องเขาทาคาชิโฮmore

-
- Jasmine T. Blossom
ฉันมาที่ทาคาจิโฮเป็นครั้งที่สองแล้ว สิ่งที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากที่สุดก็คือ โตรกธารทาคาจิโฮ สถานที่แห่งนี้ทำให้คุณได้เห็นว่าธรรมชาตินั้นทั้งสวยงามและน่ากลัวแค่ไหนในเวลาเดียวกัน การก่อตัวของหินที่ชวนให้ตื่นตะลึงของโตรกธารแห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากการระเบิดของภูเขาไฟ
ใกล้กับศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ คือ ทางเข้าสู่อามาโนะ ยาสุกะวาระ จุดที่เปี่ยมด้วยพลังซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง ตรงนี้คุณสามารถเรียงหินให้เป็นกองเพื่ออธิษฐานขอพรให้สมหวังได้ ที่นี่ยังมีตำนานที่น่าสนใจเกี่ยวกับถ้ำด้วยว่าในที่ประชุมของเหล่าทวยเทพและเทพธิดาหารือกันว่าจะพาอะมาเทระสุ เทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ออกมาจากถ้ำหินได้อย่างไร ฉันชอบที่แบบนี้มาก!
เนื้อมิยาซากิได้รับรางวัลมากมาย ดังนั้นถ้าคุณอยากจะลองเนื้อวากิวที่ดีและอร่อย ทาคาจิโฮก็น่าจะเป็นหนึ่งในที่ที่เหมาะที่สุด เราไปที่ร้านทาคาจิโฮกิวที่ชื่อว่า ร้านนาโกมิ ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องเนื้อวัวทาคาจิโฮ แม้กระทั่งคนในท้องถิ่นยังเป็นขาประจำของร้านนี้ เนื้อวัวของที่นี่ละลายในปากเลย
นี่เป็นครั้งที่สองที่ฉันได้ชมการแสดงระบำคางุระที่ศาลเจ้าทาคาจิโฮ แต่ในครั้งนี้ฉันมีพื้นความรู้มากขึ้น จากการแสดงทั้งสี่ชุด ชุดสุดท้ายที่มีชื่อว่า ระบำโกชินไต คือชุดที่สนุกที่สุด จับตาดูนักระบำที่สวมบทผู้ชายให้ดี ในระหว่างการแสดงชุดสุดท้าย นักแสดงที่ว่านี้จะสุ่มกอดคนดูที่เป็นผู้หญิง ถ้าคุณโดนกอดก็ถือว่าโชคดี เพราะนั่นคือการให้พร
-
- Tessa Karina
เรามาถึงโตรกธารทาคาจิโฮและลงเรือ เพื่อไม่ให้กล้องถ่ายรูปเปียก เราจึงพยายามระวังไม่เข้าใกล้น้ำตกอยู่ตลอดเวลา ที่นี่เป็นจุดชมวิวซึ่งว่ากันว่าเป็นจุดที่มีทัศนียภาพสวยงามของเมืองมิยาซากิ น้ำตกและก้อนหิน รวมถึงแม่น้ำที่ไหลผ่านระหว่างซอกหินทำให้ทิวทัศน์ของที่นี่สวยงามจนแทบลืมหายไปใจเลย! เราอยู่บนเรือกันพักหนึ่งเพื่อชื่นชมทิวทัศน์อันงามสง่าของธรรมชาติ
เราเดินทางไปที่ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะที่มีชื่อเสียงจากตำนานของเทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ ตัวถ้ำตามตำนานอยู่ที่บริเวณด้านหลังของศาลเจ้าและไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม แต่เราสามารถเข้าไปในส่วนของอามาโนะยาสุกาวาระซึ่งเป็นส่วนที่นักท่องเที่ยวสามารถสวดมนต์อธิษฐานต่อเหล่าทวยเทพได้ จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่กองหินมากมายหลายกองและโทริอิ (ประตูทางเข้าศาลเจ้า) นักท่องเที่ยวเป็นผู้สร้างกองหินเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งหินแต่ละกองสื่อถึงพรที่นักท่องเที่ยวขอ บางส่วนตรงด้านหลังของศาลเจ้านั้นไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป แต่เราสามารถถ่ายภาพประตูโทริอิและกองหินได้
ในช่วงเย็น เราไปที่ร้านขายเนื้อทาคาจิโฮอันโด่งดังที่มีชื่อว่า นาโกมิ ที่นี่ได้รับการยกย่องจากเมนูสเต็กที่รสชาติเยี่ยม ห้องทานอาหารของที่นี่สะดวกสบายมาก ทำให้เราอยากจะอยู่ที่นั่นตลอดไปเลย เนื้อวัวคุณภาพดีและผักที่มาจากท้องถิ่นละลายบนลิ้นของเรา เราไม่อาจจะหาคำมาบรรยายความรู้สึกสุขใจที่ห่อหุ้มอยู่รอบตัวเราในตอนนั้นได้เลย
เราไปที่ศาลเจ้าทาคาจิโฮเพื่อชมการร่ายรำที่มีชื่อว่า คางุระ ซึ่งจะมีขึ้นที่ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งแต่เวลา 20.00-21.00 น. ทุกคืน คางุระเป็นการร่ายรำแบบดั้งเดิมที่มีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นและตำนานปรัมปราของนิกายชินโต ในบรรดาการร่ายรำหลากหลายชุดที่เราได้ชมที่ศาลเจ้าทาคาจิโฮนั้น มีอยู่หนึ่งชุดที่เล่าถึงเรื่องราวของอามาเทระสุและการซ่อนเร้นตัวอยู่ในถ้ำ พวกเราตกอยู่ใต้มนต์สะกดของการแสดงและผู้ร่ายรำ ทำให้ค่ำคืนนั้นเป็นความทรงจำที่เราไม่มีวันลืมลง คางุระอาจจะเป็นการแสดงที่เก่าแก่มาก แต่ก็มีแง่มุมที่น่าชื่นชมและน่าหลงใหลอยู่
ประมาณ 5 นาที
โรงแรมโคคุมินชูคุชะ ทาคาชิโฮ และโรงแรมใกล้เคียง
วันที่สาม
โรงแรมโคคุมินชูคุชะ ทาคาชิโฮ และโรงแรมใกล้เคียง
ประมาณ 10 นาที
จากศูนย์รถบัสทาคาชิโฮ ให้ขึ้นรถบัสประจำทางไปยัง JR สถานีโนเบโอกะที่อยู่หน้าศูนย์รถบัส ประมาณ 80 นาที) → รถไฟฟ้าด่วนพิเศษ JR (นิชิริน) ไปยัง JR สถานีมินามิ มิยาซากิ ( ประมาณ 70 นาที) → JR สายนิชินัน ไปยัง JR สถานีอาโอชิม่า ประมาณ 30 นาที)
-
- Jasmine T. Blossom
ทิวทัศน์สวยงามชวนตะลึงของมหาสมุทรรอคอยคุณอยู่ที่แหลมฮิวงะ ฉันรู้สึกประทับใจกับการก่อตัวของหินหลายๆ ก้อน ที่ฉันชอบที่สุดก็คือ กางเขนทะเล ซึ่งก็คือหินที่ก่อตัวกันในมหาสมุทรจนเป็นตัวคันจิ "คานาอุ" ซึ่งแปลว่า "สมหวัง" ฉันก็เลยอธิษฐานขอพรให้ความหวังเป็นจริง
-
- Tessa Karina
เช้าวันต่อมา เรามุ่งหน้าไปที่แหลมฮิวงะซึ่งที่นี่มีทิวทัศน์ที่น่าประทับใจของหน้าผาสูงชันและชายฝั่งทะเลอันงดงาม มีทางเดินที่เลียบไปกับหน้าผาซึ่งก็นับเป็นโชคดีที่ทางเดินที่ว่านี้มีรั้วกันอยู่ทำให้เราไม่ต้องหวาดเสียว เราสำรวจบริเวณรอบๆ และรู้สึกอิ่มเอมกับทิวทัศน์ที่ได้เห็นจนไม่อยากจะกลับ ตรงแถวชายฝั่ง เราได้พบกับก้อนหินที่มีลักษณะเหมือนกับไม้กางเขน (ซี-ครุซ) ว่ากันว่าหินก้อนนี้ถูกคลื่นกัดกร่อนจนทำให้มีรูปร่างแบบนี้
ศาลเจ้าอาโอชิม่าmore
แหล่งท่องเที่ยวแนะนำ

-
- Jasmine T. Blossom
ฉันชอบทางเดินเลียบมหาสมุทรที่นำไปสู่ศาลเจ้าอาโอชิมะซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ขณะที่เดินตรงไปยังประตูศาลเจ้าสีแดง คุณจะได้เห็นหินที่ก่อตัวรวมกันซึ่งเรียกกันว่า กระดานซักผ้าของยักษ์ ถ้ามีเวลาสักนิด คุณก็น่าจะแวะเก็บเปลือกหอยแถวนี้นะ
-
- Tessa Karina
เกาะอาโอชิมะซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอาโอชิมะนั้นเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ของภูมิภาคคิวชูผ่านทางสะพานเส้นยาว บนเกาะแห่งนี้มีหาดทรายสีขาวและผืนป่าอันสวยงามอยู่ตรงกลางเกาะ มีคู่รักหลายคู่เดินทางมาที่เกาะแห่งนี้เพราะเชื่อกันว่าศาลเจ้าของที่นี่จะทำให้พวกเขาสมหวังได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีเครื่องรางสำหรับคู่รักวางขายอยู่มากมาย ตรงด้านข้างสะพานมีก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งเรียกว่า กระดานซักผ้าของยักษ์ ตั้งอยู่ โดยชื่อนี้มาจากลักษณะของหินซึ่งคล้ายกับกระดานซักผ้า
ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาทีไปยัง JR สถานีอาโอชิม่า
จาก JR สถานีอาโอชิม่าบน JR สายนิชินัน ไปยัง JR สถานีโอบิ (ประมาณ 40 นาที)
ปราสาทโอบิmore

-
- Jasmine T. Blossom
ฉันเป็นคนที่ชอบปราสาทมาก และแน่นอนว่าปราสาทโอบิต้องอยู่ในรายการการท่องเที่ยวของฉัน น่าเสียดายที่ไม่มีฮอนมารุ (หอคอยปราสาท) ให้ดูแล้ว แต่ประตูทางเข้า ส่วนของกำแพง คูภายในและคูภายนอกซึ่งจริงๆ แล้วเป็นแม่น้ำยังคงอยู่ สิ่งที่เป็นจุดเด่นก็คือ ภายในบริเวณปราสาทมีโรงเรียนประถมตั้งอยู่ด้วย ดังนั้นเด็กๆ จึงต้องเดินผ่านประตูปราสาทและปีนบันไดไปตามซากปราสาทหินที่น่าประทับใจนี้ทุกวัน
-
- Tessa Karina
ไกด์ประจำปราสาทเป็นผู้พาเราชมปราสาทโอบิ ว่ากันว่าปราสาทโอบิก่อสร้างขึ้นในช่วงราวๆ กลางศตวรรษที่ 15 ส่วนของปราสาทและกำแพงด้านนอกแต่ดั้งเดิมนั้นหลงเหลือให้เห็นอยู่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น จะเว้นก็แต่ส่วนของประตูหน้าบานหนึ่ง มีต้นซีดาร์โอบิยืนต้นอยู่ตรงบริเวณที่เคยเป็นอาคารหลัก (ซากของวิหารภายใน) นักท่องเที่ยวสามารถชมชุดเกราะและของชิ้นอื่นๆ ที่มีความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ได้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปราสาทโอบิและที่พักอาศัยเก่าของซามูไร
เดิน / นั่งรถบัส / นั่งรถแท็กซี่ ไปยัง JR สถานีโอะบิ (ระยะทางประมาณ 1.5 กม.)
จาก JR สถานีโอบิบน JR สายนิชินัน ไปยัง JR สถานีนันโก (ประมาณ 30 นาที)
โรงแรมนันโก พรินซ์
-
- Jasmine T. Blossom
โรงแรมนันโกะ ปรินซ์ โฮเทล มีห้องพักที่กว้างขวางมองไปเห็นวิวอันสวยงามของมหาสมุทร มีสระว่ายน้ำ และแม้กระทั่งสปาร้อนกลางแจ้ง แม้แต่ตอนที่นั่งทานมื้อเช้าคุณก็ยังจะได้ชมวิวอันสวยงามของมหาสมุทรไปด้วย ทำเลที่ตั้งก็สะดวกสบายถ้าหากคุณวางแผนจะไปเที่ยวที่แหลมโทอิ
-
- Tessa Karina
เราพักที่โรงแรมนันโกะ ปรินซ์ โฮเทล และที่นี่ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ฉันชอบในทริปนี้ เราได้ชมทิวทัศน์ที่สวยจนแทบจะลืมหายใจของทะเลจากหน้าต่างห้องพักและห้องน้ำในห้องของเรา
วันที่สี่
โรงแรมนันโก พรินซ์
เดิน/ นั่งรถแท็กซี่ ไปยัง JR สถานีนันโงะ (ระยะทางประมาณ 1.8 กม.)
จาก JR สถานีนันโกบน JR สายนิชินัน ไปยัง JR สถานีคูชิมะ (ประมาณ 40 นาที)
แหลมโทอิmore

-
- Jasmine T. Blossom
คุณจะได้เห็นสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์ที่แหลมโทอิ (เช่น หมูป่า) แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ ก็คือ ม้าป่าจำนวนมากกว่า 100 ตัว ที่เรียกว่า มิซากิอุมะ คุณสามารถเฝ้าสังเกตเจ้าม้าเหล่านี้ได้โดยมีมหาสมุทรเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ยังมีหนึ่งในประภาคารไม่กี่แห่งของญี่ปุ่นตั้งอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมได้
-
- Tessa Karina
แหลมโทอิมีชื่อเสียงจากม้าป่าที่วิ่งไปรอบๆ อย่างอิสระเสรี เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลอุทยานให้ข้อมูลว่ามีม้าป่ามากกว่า 100 ตัวอาศัยอยู่บนแหลมแห่งนี้ และวิ่งไปรอบๆ อาณาบริเวณเป็นวงกว้างในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
รถบัส (ประมาณ 40 นาทีโดยรถบัสชุมชนท้องถิ่นบนสายแหลมโทอิไปยัง JR สถานีคูชิมะ)
จาก JR สถานีคูชิมะบน JR สายนิชินัน ไปยังสถานีมินามิ มิยาซากิ (ประมาณ 2 ชั่วโมง) → จาก JR สถานีมินามิ มิยาซากิ บนสายมิยาซากิ คูโคะ ไปยังสถานีสนามบินมิยาซากิ
-
- Jasmine T. Blossom
ศาลเจ้าอุโดจินกูเป็นศาลเจ้าที่มีเอกลักษณ์มาก โดยตัวศาลเจ้าตั้งอยู่ในถ้ำซึ่งมองเห็นวิวมหาสมุทรที่สวยงาม และยังมีโอมาโมริ (เครื่องรางให้โชค) ให้เลือกมากมาย หนึ่งในเทพเจ้าประจำศาลก็คือ กระต่าย ดังนั้นคุณจึงจะได้เห็นรูปปั้นกระต่ายน่ารักๆ อยู่จำนวนหนึ่ง ฉันพยายามจะโยนอุนดามะ (ลูกบอลนำโชค) แต่น่าเสียดายที่โยนไม่เข้าเป้าเลยสักลูก นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ฉันมาที่นี่ และก็เป็นการโยนหนที่สองแล้วด้วย สงสัยว่าฉันคงต้องมาเป็นหนที่สามแล้วล่ะ
-
- Tessa Karina
ศาลเจ้าอุโดจินกูถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่พระบิดาของจักรพรรดิจิมมุ ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์แรกของประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าซึ่งมีสีสันโดดเด่นแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในถ้ำ ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศไม่เหมือนกับศาลเจ้าอื่น มีตำนานเก่าแก่เล่าว่าพระบิดาของจักรพรรดิองค์แรกหรือจักรพรรดิจิมมุได้รับการเลี้ยงดูโดยใช้น้ำที่หยดลงมาจากก้อนหินซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเต้านมภายในถ้ำแห่งนี้และขนมหวานที่ทำมาจากน้ำดังกล่าว ทุกวันนี้ก็ยังคงมีน้ำไหลลงมาจากก้อนหินอยู่ ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้สามารถมอบพรและโชคลาภให้กับผู้ที่เดินทางมาสักการะขอพรเพื่อการตั้งครรภ์ อุ้มท้อง คลอดอย่างปลอดภัย และการเลี้ยงดูบุตร
สนามบินมิยาซากิ(สนามบินดอกเฟื่องฟ้าเมืองมิยาซากิ)more

*ข้อมูลเส้นทางเหมือนของเดือนเมษายน ค.ศ. 2017
JAL (Japan Explorer Pass) ดูรายละเอียด
ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว
-
- Jasmine T. Blossom
โตเกียวเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางในประเทศญี่ปุ่นของคุณ แต่ถ้าคุณอยากจะเห็นสิ่งที่เป็นขั้วตรงข้ามกับเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ จังหวัดมิยาซากิเป็นตัวเลือกที่ถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว ต้นปาล์มและมหาสมุทรสีฟ้าอันงดงามจะทำให้คุณรู้สึกถึงฤดูร้อนได้ตลอดทั้งปี ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะได้ลองชิมอาหารที่สดใหม่และรสชาติอร่อย ฉันไปที่นั่นเป็นหนที่สองแล้วและจะไม่มีวันเลิกไปแน่นอน!
-
- Tessa Karina
ทัวร์นี้ที่พาเราไปยังเมืองโตเกียวและมิยาซากิเป็นทัวร์ที่น่าสนใจและสุดยอดมากๆ ที่โตเกียว เราได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของตลาด และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินในขณะกำลังล่องเรือ การช้อปปิ้งในย่านโอไดบะที่คึกคักและซาชิมิแสนอร่อยที่ร้านฮิบิคิเป็นการปิดท้ายวันของเราอย่างสมบูรณ์แบบ ในทางกลับกันที่เมืองมิยาซากิ เราตั้งตารอที่จะได้เห็นศาลเจ้าอุโดจินกูอันงดงามและอาหารรสเลิศที่ร้านอาหารแต่ละแห่ง เรายังรู้สึกประทับใจกับเกาะอาโอชิมะซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าสีแดงและกองหินหลายกอง
ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างเมืองใหญ่กับถนนสายแคบๆ ของมิยาซากินี่เองที่ทำให้การท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจจะลืมเลือนได้สำหรับเรา ถ้าคุณอยากจะเที่ยวญี่ปุ่นแบบที่ไม่ต้องเจอนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ เราขอแนะนำให้คุณมาเที่ยวตามเส้นทางนี้เลย
เสียงจากนักท่องเที่ยว
เมื่อมาถึงโตเกียว การนั่งเรือโดยสารคือวิธีการที่เหมาะสำหรับการสำรวจเมือง โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครั้งแรก เพราะมักจะมีอะไรมากมายให้ดูให้ชมเสมอ แต่ถ้าคุณอยากจะหลบออกจากเมืองโตเกียวที่วุ่นวายและสัมผัสกับญี่ปุ่นในแง่มุมที่ต่างออกไป การเดินทางไปยังเมืองมิยาซากิบนเกาะคิวชูก็เป็นความคิดที่ดีมาก ต้นปาล์ม มหาสมุทรอันสวยงาม และอาหารที่อร่อยจะทำให้คุณยิ่งตกหลุมรักประเทศญี่ปุ่น!
- Jasmine T. Blossom
-
พนักงานส่งเสริมการขายประจำภูมิภาคเอเชีย เจ้าของบล็อก นักแปล
ที่อยู่อาศัย:เยอรมนี -
งานอดิเรก
การท่องเที่ยว ชา แมว
-
จำนวนครั้งที่มาประเทศญี่ปุ่น
จำนวนครั้งที่เคยเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น 10+
-
เสียงจากนักท่องเที่ยว
โปรแกรมการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในโตเกียวและเมืองมิยาซากิเหมาะสำหรับคนที่เดินทางมาประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และสำหรับคนที่สนใจอยากชมเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและชื่นชมธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์กับประวัติศาสตร์ของเมืองมิยาซากิ ด้วยความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างทั้งสองเมือง โปรแกรมการท่องเที่ยวนี้จึงเหมาะกับนักเดินทางที่ชอบการสำรวจและคนที่รักธรรมชาติ
- Tessa Karina
-
นักข่าวประจำเว็บไซต์ท่องเที่ยว
ที่อยู่อาศัย:โตเกียว
สถานที่เกิด:เยอรมนี -
งานอดิเรก
การท่องเที่ยว ประเทศญี่ปุ่น การปีนเขา
-
ระยะเวลาที่พักอยู่ในโตเกียว
4 ปี
-